ในบทนี้เราจะนำมโนมติ (Concept)
ที่สำคัญในวิชาคณิตศาสตร์
และจำเป็นในการศึกษาวิชาทฤษฎีเซตมากล่าวไว้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจดียิ่งขึ้น
แม้ว่าเราจะได้เคยศึกษาเรื่องความสัมพันธ์และฟังก์ชันมาจนคุ้นเคยดีแล้วตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและในระดับอุดมศึกษาปีที่
1 แต่ก็มิได้กล่าวถึงคุณสมบัติและมโนมติที่ควรทราบ
และควรมีความเข้าในลึกซึ้งพอสมควร ให้เกิดความชัดเจนในเนื้อหาวิชาบ้าง
นอกจากนี้ยังจะกล่าวถึงทฤษฎีบทซึ่งจะเป็นคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ควรรู้ในที่นี้ด้วย3.1
คู่อันดับและผลคูณคาร์ทีเซียน เรื่องของคู่อันดับ
(Ordered Pair) และผลคูณคาร์ทีเชียน
(Cartesian Product) มีแนวทางการพัฒนาดังต่อไปนี้ สมมติว่าเรามีเซตคู่ เช่น
{1,2} ซึ่งเท่ากับ {2,1} เราสามารถกล่าวได้ว่า
เซตคู่ {1,2} ไม่มีความสำคัญในการเขียนอันดับของสมาชิก
นั่นคือถือว่าการสลับอันดับของการเขียนสมาชิกไม่ทำให้เซตคู่ดังกล่าวนี้แตกต่างไปจากเดิม
ในวิชาคณิตศาสตร์ยังมีความต้องการอีกสิ่งหนึ่งซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วน และถือว่าอันดับการเขียนแต่ละส่วนมีความสำคัญด้วย
ถ้ามีการสลับอันดับของการเขียนแต่ละส่วนแล้วจะไม่ได้สิ่งของสิ่งเดิมอีกต่อไป
เช่นการสลับอันดับของสิ่งสองสิ่งในเซตต่อไปนี้ {{[}¸{[¸(}} = A
ได้เป็นเซต {{[¸(}¸{[}} = B
เราอาจยังไม่แน่ใจว่า เซต
A เท่ากับเซต B หรือไม่
ถ้าเซตทั้งสองไม่เท่ากัน ก็แสดงว่าการสลับอันดับในการเขียนสมาชิกในเซต A ไม่เท่ากับเซต B ที่เราเคยศึกษามาแล้วเราทราบว่า
การกำหนดสิ่งของสิ่งหนึ่งให้ประกอบด้วย 2 ส่วน
แต่ละส่วนแทนด้วย x ก่อน
y ถือว่าได้สิ่งของ C
แต่ถ้าเราเขียน y ก่อน x ถือว่าได้สิ่งของ D โดยที่ C ≠
D หรือเขียน C =
(x,y) และ D = (y,x) การเขียนสิ่งใดก่อนก็ถือได้ว่าสิ่งนั้นเป็นอันดับแรก
และที่เราเขียนถัดมาก็เป็นอันดับสอง เรียกสิ่งที่เขียนเป็นอันดับแรก
ว่าพิกัดที่ 1 (First Component) และเรียกสิ่งที่เขียนเป็นอันดับสองว่าพิกัดที่
2 (Sencond Component) ถ้าสิ่งที่เรากล่าวมานี้
ซึ่งมีพิกัดที่ 1 และพิกัดที่ 2 หนึ่งสิ่ง
สามารถเขียนได้ 2 แบบ สมมติให้เป็น (x, y)
และ (u,
v) เปรียบเสมือนคน ๆ
หนึ่งมีสองชื่อ นั่นคือเราได้
(x, y) =
(u, v) และเราควรได้ผลว่า
x
= u และ y
= v หรือกล่าวได้ว่า
วิธีอื่นใดอีกก็ตามที่กำหนดสิ่งของ (x, y) ซึ่งทำให้ได้อันดับเป็นสิ่งสำคัญ
หรือได้ (x, y)
≠
(y, x) การกำหนด
(x, y) โดยวิธีนั้น ๆ
ก็จะเป็นการเพียงพอที่จะใช้เป็นคำจำกัดความของคู่อันดับได้ สิ่งที่เรากล่าวนี้ ก็คือคู่อันดับ (x, y) ที่เรารู้จักดีแล้ว
นักคณิตศาสตร์ต้องการให้คู่อันดับเป็นเซต
แต่ต้องได้เซตที่มีคุณสมบัติดังที่กล่าวมานี้ คือ ถ้า (x, y) = (u, v) แล้วจะได้ x = u และ y = v หรือได้ (x, y) ≠ (y, x) ในสมัยก่อนจึงมีความพยายามที่จะกำหนดนิยามของคู่อันดับ
(x, y) ในรูปเซตอยู่หลายแบบ